Sunday 23 September 2012

สุขภาพ

ความสวยไม่เข้าใครออกใคร และความไม่สวยก็ไม่เข้าใครออกใครเช่นเดียวกันกับความดำด้านของ ข้อศอก และหัวเข่าที่มักจะมาเยี่ยมเยือนคุณสาวๆ แบบไม่แบ่งสี ไม่ว่าคุณจะมีผิวขาวหรือผิวดำ ถ้าคุณไม่ได้เกิดมาเป็นลูกคุณหนู  ผู้มีอันจะกิน  ชนิดที่ไม่ต้องทำงานหนักเอง ทิชชี่เชื่อว่าคุณต้องพบกับปัญหาข้อศอกดำ หัวเข่าด้านแน่นอนค่ะ
อันที่จริงปัญหาข้อศอกดำ หัวเข่าด้านนี้ เป็นปัญหาที่เกิดขึ้นมาได้อย่างง่ายดายไม่ว่าจะเป็นคุณผู้หญิงหรือคุณผู้ชาย คุณจะรวยหรือจน ทิชชี่เชื่อว่าทุกคนล้วนเคยเท้าโต๊ะในเวลาทำงาน เท้าแขนเวลานั่งเสวนา ปาร์ตี้กับเพื่อนฝูง  หรือแม้แต่นั่งขัดสมาธิอยู่บนพื้นจริงไหมคะ!?!
นั่นเป็นสาเหตุลำดับต้นๆ เลยละค่ะที่จะทำให้ผิวพรรณของคุณ โดยเฉพาะส่วนของข้อศอก และหัวเข่าดำด้านขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  เชื่อได้เลยว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่หลายคนมักมองข้าม  แต่คุณสาวๆ รู้หรือไม่คะว่า  หากปล่อยนานไป  โดยไม่มีการบำรุงหรือใส่ใจ  ข้อศอก และ หัวเข่าของคุณ ก็จะทวีความดำด้านและกร้านยิ่งขึ้น  ดูไม่งามไปกว่าเดิมนะคะ
หากคุณสาวๆ อยากจะมีข้อศอกและหัวเข่าที่เนียนนุ่ม น่ามองขึ้นกว่าเดิม ลองทำตามวิธีง่ายๆ แบบสบายกระเป๋าของทิชชี่ดูค่ะ
วิธีง่ายๆ ข้อแรกที่สาวๆ พึงควรทำเลยก็คือ พยายามอย่านำข้อศอกของคุณไปเสียดสีหรือกระแทกกับสิ่งของต่างๆ ไม่ควรเท้าศอกบบนโต๊ะ นั่งขัดสมาธิบนพื้นแข็ง เพราะนี่เป็นต้นเหตุลำดับต้นๆ ที่สั่งสมให้ข้อศอกและเข่า รวมถึงตาตุ่มของคุณดำด้านค่ะ
ถ้าหากคุณเลี่ยงวิธีข้างต้นไม่ได้จริงๆ ทิชชี่แนะนำให้ทำวิธีดังต่อไปนี้ค่ะ
- ใช้มะนาว หรือมะขาวเปียก นำมาขัด ข้อศอก หัวเข่า ตาตุ่ม บริเวณที่หยาบกร้าน ขัดๆ ถูๆ และปล่อยทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที จากนั้นล้างออกด้วยน้ำสะอาด มะนาวหรือมะขามเปียกจะช่วยขจัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกและทำให้ผิวขาว นุ่มขึ้น  เพื่อความขาวกระจ่างอย่างต่อเนื่อง ทิชชี่แนะนำว่าควรทำสม่ำเสมอเมื่อมีเวลา  ความหยาบกร้านของคุณก็จะลดลงไปอย่างเห็นได้ชัดเลยละค่ะ
- ใช้น้ำตาลทราย นำมาผสมกับเบบี้ออยล์ ทาที่หัวเข่า ข้อศอก ตาตุ่ม ทิ้งไว้ประมาณ 10-15 นาที หลังจากนั้น ใช้ใยบวบที่ใช้ถูหลังเวลาอาบน้ำ ถูเป็นวงกลมเบาๆ น้ำตาลจะช่วย ผลัดเซลล์ผิวเก่าให้หลุดออกไป  ส่วนเบบี้ออยล์ให้ความชุ่มชื่นกับผิวค่ะ
เมื่อทำการขัดๆ ถูๆ บริเวณที่หยาบกร้านแล้ว สิ่งที่คุณไม่ควรลืมคือ การทาครีมบำรุงผิวเป็นประจำ  เพื่อผิวที่เนียนนุ่มขึ้นค่ะ  ทิชชี่รับรองว่าหากคุณทำเป็นประจำ  และสม่ำเสมอ ปัญหาข้อศอกดำ เข่าด้าน ตาตุ่มหยาบก็จะไม่เกิดกับคุณอย่างแน่นอนค่ะ ^^






คคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคคค
ดูแลความสวยด้วย 10 เคล็ดลับ ที่ทั้งง่ายและประหยัด
จาก http://www.zazana.com/Health-/10-id10905.aspx
ความงาม
          เรื่องความสวยความงามกับผู้หญิงดูจะ ขาดจากกันไม่ได้ และก็มีเรื่องเกี่ยวกับความสวยความงามอีกหลาย ๆ เรื่องเช่นกันที่คุณผู้หญิงสามารถเป็นเจ้าของได้โดยไม่ต้องลงทุนมากหรือว่า ซื้อหามาด้วยราคาแพง เพียงแค่รู้จักใช้ประโยชน์จากของรอบกายและเรียนรู้เคล็ดลับการใช้เล็ก ๆ น้อย ๆ ของมันเพิ่มเข้าไป วันนี้กระปุกดอทคอมขอนำเคล็ดลับความสวยที่ทั้งประหยัดและง่ายมาฝาก เชื่อว่าน่าจะถูกใจคุณผู้หญิงที่รู้จักเลือกกันนะคะ

    1. ถนอมแปรงแต่งหน้าให้ใช้ได้ยาวนาน

          แปรงแต่งหน้าดี ๆ ชุดหนึ่ง หากคุณรู้จักใช้อย่างถูกวิธีประกอบกับการดูแลรักษาอย่างสม่ำเสมอ มันจะอยู่กับคุณได้นานนับสิบ ๆ ปีเลยล่ะค่ะ เริ่มจากการใช้ให้ถูกวิธีคือไม่ปล่อยให้ผลิตภัณฑ์ใด ๆ ตกค้างอยู่ที่ขนแปรงนานเกินไป เพราะจะทำให้ขนแปรงเสื่อมเอาได้ง่าย ๆ นอกจากนี้ก็ต้องรักษาความสะอาด นำแปรงแต่งหน้ามาล้างด้วยยาสระผมสูตรอ่อนโยน และตากให้แห้งด้วยการวางราบลงไปบนกระดาษทิชชู่ที่ซับน้ำได้ดี อย่าวางตั้งทิ้งเอาไว้ในแก้วเด็ดขาด เพราะจะทำให้น้ำไหลซึมย้อนเข้าไปที่โคนขนแปรง กาวอาจเสื่อม และขนแปรงหลุดร่วงได้

    2. เติมหน้าระหว่างวันให้สวยปิ๊ง

          ในยามเที่ยงหรือบ่ายที่หน้าเริ่มหมองลง เครื่องสำอางที่แต่งมาก็ไม่สดใสแล้ว ใช้กระดาษซับมันซับความมันส่วนเกินบนใบหน้าออกไป จากนั้นใช้โทนเนอร์ที่แบ่งใส่ขวดสเปรย์เล็ก ๆ ฉีดให้ทั่วใบหน้า ซับออกด้วยกระดาษทิชชู่ เมื่อแห้งดีแล้วจึงใช้แปรงแตะแป้งฝุ่นโปร่งแสงปัดทับทั่วใบหน้า เท่านี้ผิวหน้าก็จะดูสดชื่นสวยปิ๊งเหมือนเดิม

    3. สครับผิวสูตรประหยัด

          คุณสามารถสครับผิวเองที่บ้านได้ ไม่ต้องง้อคอร์สสครับผิวแพง ๆ ที่สปา โดยใช้น้ำมันมะกอก 1 ส่วน ผสมกับเกลือหรือน้ำตาล 2 ส่วน และเอสเซนเชียลออยล์กลิ่นที่ชอบอีก 1-2 หยด ขัดผิวให้ทั่วทั้งตัว จากนั้นจึงจัดการอาบน้ำล้างออกด้วยน้ำอุ่น เท่านี้ผิวก็เนียนนุ่มหอมฟุ้งเหมือนเพิ่งออกมาจากสปาเป๊ะเลย

    4. สครับริมฝีปากก็ทำเองได้เหมือนกัน

          เพื่อผิวริมฝีปากที่เปล่งปลั่งและเรียบสวยยามทาลิปสติก ให้สครับริมฝีปากด้วยส่วนผสมของน้ำตาลทรายแดง น้ำมันมะกอก และกลิ่นวนิลลา อย่างละเท่า ๆ กัน ขัดนวดเบา ๆ แล้วเช็ดออกด้วยกระดาษทิชชู่ เท่านี้ริมฝีปากก็เรียบเนียนพร้อมทาลิปสติกแล้ว

    5. เพิ่มความฉ่ำให้รองพื้นด้วยบรอนเซอร์

          หากคุณต้องการเพิ่มความฉ่ำวาวให้กับผิวหน้า แต่ไม่ต้องการซื้อรองพื้นตัวใหม่ ให้ใช้บรอนเซอร์ชนิดเจลผสมลงไปกับรองพื้น ก่อนนำมาทาหน้าตามปกติ คราวนี้ก็จะได้ผิวเนียนที่ดูฉ่ำขึ้นแล้วล่ะ

    6. แต่งหน้าให้สดใสในวันอากาศร้อน

          ในวันอากาศร้อนอบอ้าวที่ต้องเตรียมแต่งตัวออกจากบ้าน สาว ๆ มักพบว่าหน้าที่เพิ่งแต่งเสร็จไปดูหมองลงอย่างรวดเร็วทั้ง ๆ ที่ยังไม่ทันออกจากบ้านด้วยซ้ำ หลาย ๆ คนมักตบแป้งเพิ่มเพื่อให้ช่วยดูดซับความมัน แต่การทำเช่นนี้จะทำให้แป้งจับตัวเป็นก้อนหรือเป็นปื้นบนผิวหน้า เปลี่ยนเป็นรอจนได้เวลาต้องออกจากบ้านแล้วจึงซับหน้าด้วยกระดาษซับมัน จากนั้นใช้แป้งฝุ่นปัดทับอีกครั้ง หน้าก็จะกลับมาใสเด้งแถมไม่เป็นคราบด้วย

    7. ลิปติกติดทนไม่เปื้อนฟัน

          เพิ่มความติดทนยาวนานให้กับลิปสติก ด้วยการปัดแป้งฝุ่นลงบนกระดาษทิชชู่ จากนั้นนำไปซับริมฝีปากที่ทาลิปสติกไว้เรียบร้อยแล้ว ทาลิปสติกซ้ำอีกรอบ และซับปากตามอีกครั้ง เท่านี้สีของลิปสติกก็จะไม่ลบเลือนและป้องกันไม่ให้เปื้อนฟันด้วย

    8. เนรมิต cat eye สวยเป๊ะ!

          คุณผู้หญิงที่มีปัญหากรีดตาแบบ cat eye ได้ไม่สวยสักที ลองหาตัวช่วยเป็นกระดาษโน้ต นามบัตร หรือกระดาษทิชชู่เนื้อหนา วางทาบที่หางตาให้เฉียงขึ้นได้องศาที่ต้องการ แล้วจัดการกรีดอายไลน์เนอร์ตามแนวนั้น รับรองว่าได้ cat eye ที่คมเป๊ะไม่มีเปื้อนแน่นอน

    9. ปัดขนตาเด้งอย่างเป็นธรรมชาติ

          ปัดขนตาให้สวยเด้งและยังดูเป็นธรรมชาติได้ด้วยการใช้กระดาษทิชชู่ หลังจากจุ่มแปรงลงไปในแท่งน้ำยามาสคาร่าและดึงออกมาแล้ว ให้นำไปปาดเบา ๆ บนกระดาษทิชชู่เพื่อซับน้ำยาส่วนเกินออก ซึ่งส่วนที่ทำให้ขนตาจับเป็นก้อน จากนั้นนำไปปัดขนตาตามปกติ คราวนี้ขนตาก็จะเด้งงอนงาม แต่ดูไม่หนาเวอร์ และไม่เป็นก้อนแล้วค่ะ

    10. ปิโตรเลียมเจลลี่ ตัวล้างเมคอัพชั้นเลิศ

          ไม่จำเป็นต้องซื้อเมคอัพรีมูฟเวอร์ราคาแพงสำหรับการล้างเครื่องสำอางออกจาก ใบหน้า โดยเฉพาะส่วนที่ล้างออกยากอย่างดวงตาและริมฝีปาก แค่ใช้กระดาษทิชชู่ป้ายปิโตรเลียมเจลลี่ออกมาจากตลับ แล้วนำไปเช็ดหน้าในทิศทางเช็ดลงมาหาคาง เท่านี้เครื่องสำอางต่าง ๆ ก็จะหลุดออกมาได้โดยง่าย

          ทุกเคล็ดลับเหล่านี้รับรองว่า สวย ประหยัด ง่าย และใช้ได้จริง คุณผู้หญิงอย่าลืมลองทำกันดูบ้างนะคะ




เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม

ยยยยยยยยยยยยยยยย

วิธีดูแลผิวให้คงความสวย ในแต่ละช่วงวัย


ในแต่ละช่วงเวลาของชีวิต ในแต่ละช่วงอายุของผิว ต่างต้องการการดูแลที่แตกต่างกัน ผิวในวัย 20, 30 และ 40 มีสภาพที่แตกต่างกันอย่างชัดเจนจึงต้องการการดูแลที่ไม่เหมือนกัน เรามาทำความรู้จักกับความต้องการของผิวในแต่ละช่วงวัย เพื่อที่จะดูแลให้ผิวดูดีไปนานๆ แน่นอนว่า ถ้าเราดูแลได้ดี ก็สามารถลดอายุของผิวลงมาได้เป็นสิบปี
วัย 20
ในช่วงวัย 20 นี้ เป็นวัยที่เพิ่งผ่านพ้นจากวัยเด็กมาไม่นาน เป็นวัยที่เซลล์มีการเจริญเติบโต มีการเกิดใหม่มาทดแทนเซลล์เก่าอย่างรวดเร็วตลอดเวลา ผิวจึงดูเปล่งปลั่งสดใส ไม่ค่อยมีปัญหาอะไร นอกเสียจากเรื่องสิว ที่อาจจะมากวนใจหลายๆ คน ซึ่งก็แก้ไขได้ไม่ยาก เพียงดูแลผิวให้ถูกต้องเหมาะสมกับสภาพผิว สิ่งที่จำเป็นต้องรู้จึงหนีไม่พ้นเรื่องชนิดของผิว ว่ามีผิวแบบไหน ผิวแห้ง ผิวมัน หรือ ผิวผสม เพื่อที่จะได้ดูแล และใช้ผลิตภัณฑ์ ไม่ว่าจะเป็นชุดทำความสะอาดผิว หรือ ชุดบำรุงผิวได้ถูกต้องเหมาะสมกับสภาพผิว นอกเหนือจากนี้ที่สำคัญมากๆ ก็คืออยู่ให้ห่างจากแสงแดด ทากันแดดทุกครั้งที่ออกแดด และห้ามบีบสิวเด็ดขาด เพราะจะทำให้เกิดแผลเป็น ซึ่งจะแก้ไขได้ยากและใช้เวลา เพียงเท่านี้ ผิวก็จะดูดี สวยใสสมวัยแล้ว
วัย 30
ในช่วงวัย 30 อาจจะต้องมีการดูแลผิวมากขึ้น เป็นช่วงเวลาที่เราอาจต้องช่วยให้ผิวมีการผลัดเซลล์ กำจัดเซลล์เก่าไป และเผยผิวใหม่ เพราะการผลัดเซลล์เองตามธรรมชาติไม่รวดเร็วเหมือนเมื่อวัย 20 ต้นๆ อีกแล้ว เมื่อไม่มีการผลัดเซลล์ใหม่ เซลล์ที่เสื่อมสภาพห่อหุ้มผิวเราอยู่ ผิวหน้าก็จะดูหมองๆ ไม่สดใส ไม่เรียบเนียนเหมือนช่วง 20 ต้นๆ การมาผลัดเซลล์ผิวทุกๆ 2 อาทิตย์จึงช่วยได้มาก จะช่วยกระตุ้นให้เกิดเซลล์ใหม่ และผิวพรรณดูสดใส เปล่งประกาย การผลัดเซลล์ผิวก็มีหลากหลายวิธี เช่น micro-dermabrasion การผลัดเซลล์ด้วยเกล็ดอัญมณี, aqua bright การผลัดเซลล์ผิวด้วยพลังอณูของน้ำที่นุ่มนวลและอ่อนโยน, การผลัดเซลล์ผิวด้วยกรดผลไม้ เป็นต้น พอย่างเข้าสู่ช่วงวัย 35 ขึ้นไป จะพบว่าเริ่มมีริ้วรอยเล็กๆ รูขุมขนใหญ่ขึ้น ในช่วงเวลานี้จึงควรมีการดูแลด้วยการทำเลเซอร์บ้าง เพื่อกำจัดคอลลาเจนที่เสื่อมสภาพและกระตุ้นให้เกิดการสร้างคอลลาเจนใหม่ ทรีทเมนท์ในกลุ่มนี้ก็ เช่น Sublative RF, Functional Laser, T-Max เป็นต้น
วัย 40 ขึ้นไป
วัย 40 ถือเป็นช่วงเวลาที่ต้องเริ่มดูแลผิวกันอย่างจริงจัง เพราะเป็นช่วงที่เริ่มเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงฮอร์โมน ผิวจะแห้ง และหยาบมากขึ้นด้วยผลมาจากปริมาณฮอร์โมนที่เปลี่ยนแปลง และลดลง ดังนั้นการดูแลผิวในวัยนี้ที่ขาดไม่ได้เลย ก็คือการบำรุงผิวด้วยครีมบำรุงที่ดี มีสารให้ความชุ่มชื้นมากๆ และมีการทำทรีทเมนท์เลเซอร์ที่ลงลึก ที่ช่วยในการสร้างคอลลาเจน และฟื้นฟูผิว ตลอดจน อาจมีการฉีดฟิลเลอร์ และโบท็อกซ์ เพื่อช่วยแก้ไขเรื่องริ้วรอยต่างๆที่ปรากฏชัดขึ้น นอกจากนี้ปัญหากรอบหน้าที่เริ่มเปลี่ยนไป ซึ่งเกิดจากความหย่อนคล้อยของผิวในชั้นลึก จะสังเกตเห็นว่า กรอบหน้า คางกับคอเริ่มไม่มี หางตาตก แก้มคล้อยลง การหย่อนคล้อยในลักษณะนี้ เกิดจากโครงสร้างในชั้นผิวหนังลึกเริ่มหย่อนคล้อย จึงจำเป็นต้องลงไปแก้ในชั้นผิวนี้
ซึ่งการแก้ไข ก็จำเป็นต้องเข้าใจถึงความสลับซับซ้อนของโครงสร้างในชั้นผิวหนังและเลือกเครื่องมือให้เหมาะสมกับปัญหา ถ้าแก้ไขที่ชั้นคอลลาเจน เพื่อให้เกิดการหดกระชับขึ้นของคอลลาเจน ก็จะใช้เทคโนโลยี เทอร์มาจ แต่ถ้าเป็นการแก้ไขที่ชั้นพังผืดกล้ามเนื้อ ที่ยึดคอลลาเจน ซึ่งในอดีตทำได้ด้วยเพียงการผ่าตัดเท่านั้น ในปัจจุบันก็มีเทคโนโลยีที่ชื่อว่า อัลเธอรา ที่ลงไปได้ลึกที่สุดเท่าที่เครื่องมือจะลงไปได้ โดยส่งพลังงานในลักษณะเป็นจุดๆ ถี่ๆ เพื่อลงไปทำให้ชั้นที่ยึดคอลลาเจนนี้ได้หดกระชับขึ้น ในการแก้ปัญหาเรื่องรูปหน้านี้ ในทางปฏิบัติ เราสามารถผสมผสานการใช้เทคโนโลยี เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด เช่น อาจจะมีการทำ อัลเธอรา เพื่อยกกระชับผิว และฉีดโบท็อกซ์เพื่อลดริ้วรอยไปด้วย เป็นต้น หรือในบางกรณี ก็สามารถทำอัลเธอรา ร่วมไปกับการทำเธอร์มาจ เป็นต้น
ถ้าเราดูแลผิวดีตั้งแต่อายุยังน้อยเท่าไร เราก็ยิ่งยืดอายุให้กับผิวเราได้มากเท่านั้น นั่นย่อมหมายถึง การสามารถลดอายุของผิวลงมาได้เป็น สิบๆ ปี และที่สำคัญ อย่าลืมป้องกันผิวจากแสงแดด ศัตรูตัวร้ายของผิวเราไม่ว่าจะอยู่ในช่วงอายุไหนๆ ก็ตาม
ข้อมูล/ภาพ : Apex Profound Beauty

0 comments:

Post a Comment