Sunday 23 September 2012

ทำไมต้องทำประกันชีวิต

ทำไมต้องทำประกันชีวิต

หลายคนบอกว่าประกันชีวิตไม่สำคัญ เพราะหลายคนหวังว่าตัวเองจะไม่เป็นอะไร ลองถามตัวคุณเองว่า
  • คุณห้ามไม่ให้คุณเจ็บป่วยได้หรือไม่?
  • คุณห้ามไม่ให้เกิดอุบัติเหตุกับคุณได้หรือไม่?
  • คุณห้ามการจากไปของคุณได้หรือไม่?
ถ้าคุณตอบว่า ไม่ได้..ประกันชีวิตคือสิ่งที่สำคัญที่สุด ในการช่วยประกันการดำรงชีวิตของคุณ ไม่ว่าคุณจะพบเจอเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันอย่างไรประกันชีวิตจะช่วยคุณแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายที่ไม่คาดฝันเหล่านั้น
ประกันอนาคต
สำหรับคนหนุ่มสาวที่เริ่มทำงาน และอยากมีวินัยในการเก็บออมเพื่อเงินก้อนในอนาคต ควรเริ่มต้นซื้อประกันแบบออมทรัพย์เพื่อเริ่มต้นการเก็บออมแต่เนิ่นๆ และประกันประเภทออมทรัพย์ที่มีระยะเวลาคุ้มครอง 10 ปีขึ้นไป ยังสามารถช่วยลดหย่อนภาษีได้อีกด้วย
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่อยากเก็บออมเพื่อความมั่นใจว่าการศึกษาของลูกไม่มีสะดุด แม้มีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน เพราะเมื่อเริ่มมีชีวิตน้อยๆ เกิดขึ้น ความรับผิดชอบของคุณยิ่งเพิ่มเป็นทวีคูณ คุณต้องวางแผนการออมเพื่อเป็นทุนการศึกษาให้ลูก ประกันชีวิตเพื่อการศึกษาเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยให้คุณมีวินัยในการออมมากขึ้น เพื่อให้อนาคตของลูกไม่สะดุด และให้เขาได้เป็นในแบบที่เขาฝัน
สำหรับวัยกลางคน ที่อยากพึ่งตนเองแม้หยุดงานและไม่มีรายได้ ประกันชีวิตเป็นอีกทางเลือกที่ช่วยเสริมให้วัยเกษียณมั่นคงมากขึ้น คุณอาจมีการออมเงินด้วย LTF หรือ RMF แล้ว แต่ประกันชีวิตก็เป็นส่วนเสริมที่ดี เพราะความเสี่ยงต่ำประกันชีวิตเพื่อการเกษียณช่วยให้คุณมั่นใจว่าจะมีเงินใช้หลังจากคุณหยุดทำงาน ซึ่งอาจแบ่งเป็นบำเหน็จหรือบำนาญแบบที่คุณเลือกเองได้
สำหรับครอบครัวของคุณ ถ้าคุณคือเสาหลักให้กับครอบครัว และอยากฝากความสบายให้คนข้างหลังแม้คุณจากไป คุณควรซื้อประกันชีวิตที่ให้ความคุ้มครองชีวิตของคุณเอง เช่น ประกันชีวิตที่คุ้มครองชีวิตคุณในระยะเวลาที่นานและมีความคุ้มครองสูง เช่น คุ้มครองถึงอายุ 70 80 90 ปี วงเงินความคุ้มครองของประกันประเภทนี้ ควรเพียงพอให้ครอบครัวใช้จ่ายขณะปรับตัวถ้าเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันขึ้นกับคุณ อย่างน้อยควรเท่ากับรายได้ของคุณ 1 ปี
สำหรับผู้สูงอายุ ที่อยากให้การจากไปนั้นมีเงินก้อน เพื่อไม่เดือดร้อนลูกหลานในการจัดงานพิธี ประกันสำหรับผู้สูงอายุเบี้ยประกันมักจะไม่สูงมากและวงเงินความคุ้มครองเพียงพอต่อการจัดงานพิธีได้ เพื่อให้คุณไม่ต้องกังวลว่าจะเดือดร้อนลูกหลานเมื่อถึงเวลาที่คุณต้องจากไป
ประกันสุขภาพ
สำหรับทุกเพศทุกวัยที่ไม่แน่ใจว่าคุณจะมีเงินออมเพียงพอกับค่ารักษาพยาบาลที่เพิ่มขึ้นทุกปี การซื้อประกันสุขภาพ เปรียบเหมือนการออมเงินไว้เพื่อดูแลตัวเองเมื่อเจ็บป่วย เพื่อจะได้ไม่ต้องไปดึงเงินเก็บส่วนอื่นมาใช้เมื่อไม่สบาย เปรียบเทียบการจ่ายเบี้ยประกันสุขภาพกับค่ารักษาพยาบาลที่สูงขึ้นทุกปีๆ แล้ว จ่ายเบี้ยประกันคุ้มกว่าการต้องจ่ายค่ารักษาพยาบาลก้อนใหญ่
สำหรับทุกคนที่คิดว่าถ้าคุณตรวจพบโรคร้ายแรงคุณต้องการเงินในการรักษาเยียวยา ประกันโรคร้ายแรงให้ผลประโยชน์เป็นเงินก้อน คุณไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเงินพอรักษาพยาบาล เพราะคุณสามารถบริหารเงินค่ารักษาพยาบาลได้เอง
ประกันอุบัติเหตุ
สำหรับทุกคนที่ไม่แน่ใจว่าอะไร และเมื่อไหร่ สิ่งที่คุณไม่อยากให้เกิดได้เกิดขึ้น และคุณต้องพึ่งตนเองเพื่อรักษาตัวและกลับมาใช้ชีวิตได้เหมือนเดิม นอกจากนั้น ประกันอุบัติเหตุก็เป็นอุปกรณ์เสริมที่ดีสำหรับคนมีครอบครัว เพราะให้ความคุ้มครองที่สูงในขณะที่เบี้ยประกันต่ำ และการเกิดอุบัติเหตุยังเป็นสิ่งที่สร้างความตกใจให้แก่ครอบครัวมาก ครอบครัวอาจต้องใช้เวลามากกว่า 2 ปีในการปรับตัว ทุนประกันอุบัติเหตุอาจสูงกว่าทุนประกันชีวิตประมาณ 2 เท่า
วัย 50 ปีขึ้นไปส่วนใหญ่เริ่มมีภาระน้อยลง เพราะบุตรหลานเริ่มเรียนจบและทำงานมีรายได้ ช่วงวัยหลังจากเกษียณ วัยนี้ไม่ควรทำธุรกิจที่มีความเสี่ยง แต่ควรลงทุนซื้อหุ้นในระยาว ไม่เกิน 30% ของเงินออม เพื่อเพิ่มพูนเงินออมให้มากขึ้น
คุณจะเห็นว่า แต่ละช่วงชีวิต มีความต้องการประกันชีวิตในรูปแบบที่ต่างกัน ลองสำรวจตัวคุณเองว่า คุณมีประกันชีวิตที่เหมาะกับจังหวะชีวิตของคุณหรือยัง

จาก http://www.blogmarketingplus.com/2012/05/blog-post.html

0 comments:

Post a Comment